วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

หลักการของ Templeton

เซอร์ จอห์น เทมเปิลตัน ตำนานเซียนหุ้นระดับอินเตอร์ซึ่งมีการลงทุนกระจายอยู่ทั่วโลก มีหลักการลงทุนที่ยึดถือมานาน Value Investor ที่มุ่งมั่นควรจะเรียนรู้ไว้ และนำมาประยุกต์ใช้  ต่อไปนี้เป็นหลักปฏิบัติ 23 ข้อของเขา
1. สำหรับนักลงทุนระยะยาวทุกคนแล้ว มีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว นั่นคือ "สร้างผลตอบแทนรวมที่แท้จริงหลังภาษีสูงสุด"
2. การบรรลุผลตอบแทนการลงทุนที่ดีต้องการการศึกษาและการทำงานอย่างหนัก และมันยากกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด
3. เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า ยกเว้นแต่ว่าคุณจะทำบางสิ่งบางอย่างแตกต่างจากคนส่วนใหญ่
4. เวลาที่คนมองโลกในแง่ร้ายที่สุด คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อ และเวลาที่คนมองโลกในแง่ดีที่สุด ก็คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะขาย
5. ถ้าจะพูดหลักการข้อที่สี่ในอีกแบบหนึ่งก็คือ ในตลาดหุ้นวิธีเดียวที่จะซื้อหุ้นถูกก็คือ การซื้อในสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังขาย
6. การซื้อเมื่อคนอื่นกำลังขายอย่างหมดหวัง และการขายเมื่อคนอื่นกำลังซื้ออย่างละโมบ ต้องการความกล้าหาญสูงสุด แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่กำลังเสนอผลตอบแทนสูงสุด
7. ตลาดหมีนั้นอยู่ชั่วคราวเสมอ ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นประมาณ 1- 12 เดือน ก่อนวัฏจักรธุรกิจจะตกถึงจุดต่ำสุด
8. ถ้าอุตสาหกรรมใดหรือหลักทรัพย์แบบใดได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุน ความนิยมนั้นจะเกิดขึ้นชั่วคราวเสมอ และเมื่อความนิยมนั้นหมดไป มันจะไม่กลับมาอีกนานหลายๆปี
9. ในระยะยาว ดัชนีตลาดหุ้นจะผันผวนไปตามแนวโน้มระยะยาวของการเติบโตของกำไรต่อหุ้น
10. ในโลกเสรี กำไรของดัชนีตลาดหุ้นจะผันผวนไปตามมูลค่าการสร้างทดแทนของมูลค่าตามบัญชีของหุ้นที่อยู่ในดัชนีนั้น
11. ถ้าคุณซื้อหลักทรัพย์ตัวเดียวกับที่คนอื่นซื้อ คุณก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดียวกับคนอื่น
12. เวลาที่จะซื้อหุ้นตัวหนึ่งก็คือ เมื่อเจ้าของหุ้นที่ลงทุนระยะสั้นขายหุ้นของพวกเขาหมด และเวลาที่จะขายหุ้นก็มักจะเป็นเมื่อเจ้าของหุ้นระยะสั้นได้ซื้อเสร็จแล้ว
13. ราคาหุ้นผันผวนมากกว่าคุณค่าของมันมาก ดังนั้น กองทุนหุ้นที่อิงดัชนีจะไม่มีทางสร้างผลตอบแทนรวมที่สูงที่สุด
14. มีนักลงทุนจำนวนมากเกินไปที่เน้นที่"ภาพในอนาคต" และ "แนวโน้ม" ดังนั้น เราสามารถทำกำไรได้มากกว่าโดยการเน้นที่คุณค่า
15. ถ้าคุณค้นหาหุ้นทั่วโลก คุณจะพบหุ้นที่ถูกได้มากกว่าและถูกกว่าการศึกษาเพียงชาติเดียว นอกจากนั้น คุณยังได้ความปลอดภัยจากการกระจายการลงทุนด้วย
16. ความผันผวนของราคาหุ้นนั้นจะเป็นสัดส่วนประมาณเท่ากับรากที่สองของราคาหุ้น
17. เวลาที่จะขายทรัพย์สินตัวหนึ่งก็คือ เมื่อคุณได้พบทรัพย์สินที่ราคาถูกกว่ามากที่จะมาแทนมัน
18. เมื่อวิธีการเลือกหุ้นแบบหนึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลาย คุณควรเปลี่ยนไปใช้อีกวิธีหนึ่งที่ไม่เป็นที่นิยม ก็อย่างที่ได้แนะนำในหลักการข้อถ้ามีนักลงทุนใช้หลักการนั้นมากเกินไป วิธีการเลือกหุ้นหรือวิธีการคาดการณ์จังหวะซื้อขายหุ้นนั้นก็จะหมดประสิทธิภาพ
19. อย่าใช้วิธีการเลือกหุ้นหรือเลือกลงทุนในทรัพย์สินแบบใดแบบหนึ่งอย่างถาวร พยายามยืดหยุ่น เปิดกว้าง และตั้งคำถามเสมอ ผลลัพธ์ดีที่สุดในระยะยาวนั้นจะเป็นไปได้ก็เฉพาะโดยการเปลี่ยนหลักทรัพย์หรือวิธีการเลือกหลักทรัพย์จากที่เป็นที่นิยม เป็นแบบที่คนไม่นิยม
20. ทักษะในการเลือกนั้นมีผลมากที่สุดสำหรับส่วนที่เป็นหุ้นในเงินลงทุนรวมของคุณ
21. ผลงานดีที่สุดนั้นถูกทำโดยบุคคลไม่ใช่คณะกรรมการ
22. ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยการสวดมนต์ คุณจะสามารถคิดได้ชัดเจนและทำผิดแบบโง่ๆน้อยลง
23. ถ้าคุณเป็นเจ้าของหุ้นตัวหนึ่งและกำลังคิดจะเปลี่ยนเป็นอีกตัวหนึ่ง หุ้นตัวที่สองควรที่จะมีค่ามากกว่าตัวแรกอย่างน้อย 50% ถึงจะคุ้มค่าที่จะเปลี่ยน
          และทั้งหมดนั้นก็คือหลักการของเทมเปิลตันที่ได้รับการพิสูจน์มายาวนานจนน่าจะเรียกได้ว่าคลาสสิค  คงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อและปฏิบัติตามได้ทุกข้อ อย่างไรก็ตามหลายๆข้อนั้นน่าจะมีความเป็นจริงอยู่มาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น