วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

บัฟเฟตต์

บัฟเฟตต์ได้พูดถึงกลยุทธ์การเลือกการลงทุนในกิจการว่า เขาจะแบ่งบริษัทออกเป็น 3 กลุ่ม โดยจะมีถาดใส่เอกสาร 3 ใบ ใบแรกคือถาด In ซึ่งจะเป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจ มีอนาคตที่สดใส ใบที่สองคือ Out หรือบริษัทที่ไม่ดี ไม่น่าสนใจลงทุน และถาดที่สามคือ Too hard ซึ่งแปลว่ายากเกินไปที่เขาจะเข้าใจ ซึ่งในกลุ่มหลังนี้มีมากเสียจนเขาพูดเล่นๆว่าต้องมีถังขยะใบใหญ่ๆ เอาไว้ทิ้ง นั่นคือ เขาแนะนำว่า เราควรเลือกหุ้นลงทุนน้อยตัวมาก เช่นในชีวิตนี้ ควรคิดว่าเรามีโอกาสที่จะลงทุนในหุ้นเพียง 20 ตัว ซึ่งจะทำให้เราระมัดระวังและศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะลงทุน
นอกจากความสามารถของผู้บริหารและเรื่องของการดูข้อมูลทางด้านการเงินแล้ว ปัจจัยอะไรที่ทำให้บัฟเฟตต์ตัดสินใจได้เร็วมากในการลงทุน คำตอบก็คือ เขามีเครื่องกรองในการลงทุน 4 ข้อ
เครื่องกรองที่ 1 : เราสามารถเข้าใจธุรกิจที่จะลงทุนไหม มันจะเป็นอย่างไรในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ยกตัวอย่างเช่น Intel กับหมากฝรั่ง บัฟเฟตต์บอกว่าเขาจะลงทุนเฉพาะในสิ่งที่เขารู้จักดี เช่น โค๊ก
เครื่องกรองที่ 2 : บริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืนหรือไม่ นั่นเป็นเหตุให้เขาไม่ซื้อกิจการที่เป็นแฟชั่นเช่นของเล่นเด็ก แต่จะซื้อน้ำอัดลมและหมากฝรั่งที่มียี่ห้อและมีความได้เปรียบที่คนอื่นแข่งไม่ได้
เครื่องกรองที่ 3 : บริษัทมีฝ่ายจัดการที่เราสามารถไว้วางใจได้หรือไม่
เครื่องกรองที่ 4 : ราคาหุ้นสมเหตุผลไหม
และนั่นก็คือความคิดเห็นบางส่วนที่บัฟเฟตต์พูดกับนักศึกษาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นครั้งคราว และเป็นกลยุทธ์ที่ออกจากปากบัฟเฟตต์เอง ดังนั้น มันจึงเป็นของแท้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น