วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

เทคนิคการลงทุนในหุ้น

ในตลาดหุ้นไทยนั้นผมสังเกตว่านักลงทุนแต่ละคนมักมีเทคนิคในการลงทุนเฉพาะของตัวเอง แต่ถ้าจัดเป็นกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันผมคิดว่าน่าจะมีกลุ่มใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
          กลุ่มแรกคือ กลุ่มเล่นตามข่าว นี่เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด เทคนิคที่ใช้ก็คือการเล่นหุ้นตามข่าว ซึ่งยังสามารถแบ่งเป็นข่าวตลาดหรือข่าวเศรษฐกิจที่เป็นเรื่องมหภาค และข่าวบริษัทหรือข่าวหุ้นซึ่งเป็นข่าวจุลภาค ข่าวตลาดนั้นเป็นข่าวที่เขาใช้ในการจับจังหวะที่จะเข้าหรือออกจากตลาด ข้อมูลที่ใช้ก็มักจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ การซื้อขายหุ้นของต่างชาติ ปริมาณการซื้อขายหุ้นรายวัน และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ดัชนีหุ้น พูดง่ายๆก็คือ ถ้าดัชนีหุ้นกำลังวิ่งขึ้นเขาก็จะเข้ามาเล่น ถ้าดัชนีกำลังตก เขาก็จะออกจากตลาดชั่วคราว สิ่งที่เขาสนใจมากก็คือ ตลาดจะเป็นอย่างไร และนี่คือคำถามยอดนิยมตลอดกาล  ข่าวบริษัทหรือข่าวหุ้นเป็นสิ่งที่นักเล่นหุ้นตามข่าวใช้ในการเลือกหุ้นที่จะลงทุน ข้อมูลข่าวบริษัทหรือหุ้นมักจะมาจากหนังสือพิมพ์หรือหนังสือเกี่ยวกับหุ้นรายวัน เช่นเดียวกับรายการทางโทรทัศน์หรือวิทยุที่มีการพูดถึงหุ้นรายตัวกันมากขึ้น นอกจากข่าวที่ กรองแล้วที่เป็นทางการในสื่อต่างๆ ก็ยังมี ข่าวลือที่ลือกันไปตามห้องค้าพูดถึงเรื่องของบริษัทโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นเช่นการแจกวอแรนต์หรือการจ่ายปันผลเพิ่ม หรือข่าวที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะเปลี่ยนพื้นฐานของบริษัทแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวประเภทว่า ขาใหญ่บางคนกำลังเข้ามาเล่นหุ้นบางตัวซึ่งจะทำให้หุ้นวิ่ง
          กลุ่มที่สองคือ กลุ่มเล่นหุ้นตามกระแสบวกพื้นฐาน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เล่นหุ้นโดยอิงกับพื้นฐานของกิจการที่มี คนบอกว่าดีตามแนวโน้มที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หุ้นที่มักจะอยู่ในข่ายก็คือหุ้นของบริษัทที่มีผลการดำเนินงานดีมาระยะหนึ่งแล้วและคาดว่าจะดีต่อไปโดยนักวิเคราะห์และ ผู้เชี่ยวชาญราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวมาค่อนข้างมากแล้ว เช่นเดียวกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมหาศาล นี่คือหุ้นที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ซื้อและแทบไม่มีใครบอกให้ขาย วิธีหาข้อมูลของนักเล่นหุ้นในกลุ่มนี้ก็คือนอกจากการอ่านหนังสือพิมพ์ต่างๆแล้ว เขามักจะเข้าฟังการสัมมนา อ่านบทวิเคราะห์หุ้น คุยกับเพื่อนหรือคนที่ เชี่ยวชาญแต่สุดท้ายการตัดสินใจของเขาก็มักจะต้องดูว่าหุ้นที่สนใจหรือกำลังพูดถึงนั้นมีการเคลื่อนไหว หรือ มีกระแสที่น่าสนใจหรือไม่ พูดง่ายๆหุ้นวิ่งขึ้นหรือมีปริมาณการซื้อขายมากขึ้นหรือไม่
          กลุ่มที่สามก็คือ การใช้เทคนิคอล หรือการเล่นหุ้นโดยอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิค นี่คือคนที่เริ่มการลงมือวิเคราะห์หุ้นด้วยตนเองโดยอาศัยการใช้ข้อมูลการซื้อขายหุ้นได้แก่ราคาและปริมาณมากำหนดจุดซื้อและขายหุ้นแต่ละตัวหรือการเข้าออกจากตลาด ผมคิดว่าคนที่อิงการซื้อขายทั้งหมดกับการเล่นแบบเทคนิคอลคงจะมีไม่มากนัก แต่คนที่ใช้เทคนิคนี้เป็นตัวประกอบคงจะมีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และหลายคนก็อาจจะไม่ได้วิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยตนเอง แต่อาศัยโบรกเกอร์คอยบอกให้เป็นหลัก เพราะดูเหมือนว่าการดูเทคนิคอลนั้นง่ายมากถ้าคุณมีโปรแกรมสำเร็จรูปอย่างที่โบรกเกอร์แทบทุกแห่งมี
          กลุ่มที่สี่ก็คือกลุ่ม Value Investment  นี่คือกลุ่มที่วิเคราะห์หุ้นเอง โดยเน้นที่พื้นฐานของกิจการเป็นหลัก การลงทุนมักจะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างยาวเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ในกลุ่มนี้เองก็ยังมีความหลากหลายโดยกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มที่เน้นหุ้นที่มีราคาถูกสไตล์ของเบนเกรแฮม รองลงมาก็คือการเน้นที่ปันผล และสุดท้ายที่ยังมีน้อยก็คือการลงทุนในหุ้นแบบซุปเปอร์สต็อคสไตล์ วอเร็น บัฟเฟตต์ ข้อมูลที่นักลงทุนในกลุ่มนี้ใช้เนื่องจากยังไม่ค่อยมีสถาบันไหนทำและเผยแพร่เป็นวงกว้าง ดังนั้น นักลงทุนกลุ่มนี้จึงต้องอาศัยข้อมูลโดยตรงจากบริษัทที่มักอยู่ในเวปไซต์ของตลาด และ กลต. เช่นเดียวกับเวปไซต์อื่นๆ เช่นของโบรกเกอร์และเวปไซต์ของนักลงทุนในกลุ่มนี้กันเอง เทคนิคแบบ Value Investment มักจะต้องหาความรู้จากหนังสือ การพูดคุยกับเพื่อนที่ใช้เทคนิคเดียวกัน รวมทั้งการเข้าฟังการสัมมนาในบางโอกาส การใช้เทคนิค Value Investment นี้ ดูเหมือนจะมีความยากลำบากพอสมควรและต้องมีความรู้หลายเรื่องโดยเฉพาะทางบัญชีด้วย ทำให้คนที่ใช้เทคนิคนี้มักจะเป็นคนที่มีการศึกษาค่อนข้างสูงและมักเป็นคนที่สนใจหาความรู้ และเป็นคนที่มีเหตุผลหนักแน่นกว่าการใช้อารมณ์ในการลงทุน
          เทคนิคสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ เทคนิคการลงทุนแบบ Passive หรือลงทุนระยะยาวในกิจการขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงสูงเป็นที่รู้จัก มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในระดับที่ดี และมักจะเติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจ คนกลุ่มนี้อาจจะซื้อหุ้นเองเช่น ซื้อหุ้นธนาคาร หรือหุ้นในกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่เก็บไว้โดยไม่ได้ตั้งใจขายทำกำไรเป็นหลัก หรือไม่ก็ซื้อหน่วยลงทุนหุ้นของบริษัทจัดการกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นตามตลาดหรือหุ้นโดยทั่วๆไปโดยมีความเชื่อมั่นว่าในระยะยาวแล้วการลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินหรือซื้อพันธบัตร
          ทั้งหมดนั้นก็คือเทคนิคที่ผมพอจะนึกออกและคิดว่ามีคนปฎิบัติกันพอสมควร แน่นอน คนหลายคนอาจจะใช้เทคนิคหลายอย่างประกอบกัน หรือใช้เทคนิคบางอย่างในหุ้นบางตัวและเทคนิคอีกอย่างหนึ่งในหุ้นบางตัวหรือบางพอร์ต ประวัติศาสตร์บอกเราว่า ในบางช่วงบางเวลาเทคนิคหนึ่งอาจจะโดดเด่นเอาชนะเทคนิคอื่นได้ ไม่มีเทคนิคไหนที่ชนะได้ตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น