วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

ลงทุนแบบเต่า

ถ้าจะเปรียบเทียบการลงทุนกับสัตว์แล้ว ผมคิดว่าสไตล์การลงทุนแบบ Value Investment นั้นน่าจะเปรียบเทียบได้กับเต่า หุ้นที่จะลงทุนในลักษณะของ Value Investment นั้นควรมีลักษณะของเต่า นักลงทุนที่เป็น Value Investor เองถ้าจะให้ดีก็ต้องมีธรรมชาติของเต่า นั่นคือ ช้า แข็ง แกร่ง อดทน และอายุยืนนาน
หุ้นเต่าที่น่าลงทุนนั้นควรจะเป็นหุ้นของกิจการที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอช้าๆ แต่มั่นคง โดยมีเกราะป้องกันคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับความสามารถในการฝ่าฟันอันตรายจากสภาวะแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ค่าเงิน ภาวะเศรษฐกิจ แบบเดียวกับเต่าที่สามารถหดทุกอย่างเข้าไปอยู่ภายใต้กระดองที่แข็งแกร่ง และสามารถที่จะฝ่าฟันผ่านป่าทึบและหนองน้ำ พายุ สัตว์ร้ายต่างๆ ทุกชนิด และในทุกภูมิอากาศ
วิธีที่จะดูว่าเป็นหุ้นเต่าหรือเปล่าแบบง่ายๆ ก็คือ ถามว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านั้นจะมีอะไรที่สามารถเข้ามาทำร้ายกิจการได้ และโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าคำตอบก็คือ มี และมีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างสูง และถ้าเกิดขึ้นจะทำให้กิจการประสบกับความเสียหาย กำไรลดลงมากหรืออาจจะถึงกับขาดทุน นี่แปลว่าไม่ใช่หุ้นเต่า ตัวอย่างง่ายๆ เช่น หุ้นของกิจการที่เป็นวัฏจักรทั้งหลายนั้น ถ้าขณะนี้เป็นช่วงที่ราคาสินค้าอยู่ในระดับสูงมาได้หลายปีแล้ว โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงในระยะอีก 5 ปีข้างหน้าก็น่าจะมีสูงซึ่งจะทำให้กำไรของกิจการถดถอยลง นี่คือความเสี่ยงที่บริษัทไม่สามารถป้องกันได้ เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่หุ้นเต่า  บริษัทผู้ส่งออกสินค้าส่วนใหญ่ไปต่างประเทศที่ไม่ได้มีความโดดเด่นอย่างชัดเจนนั้น อาจจะต้องประสบกับความเสี่ยงหลายๆอย่าง เช่น ค่าเงินบาทที่เปลี่ยนไปในทางแข็งค่าขึ้นซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทลดลง หลายๆ บริษัทต้องเสี่ยงกับการแข่งขันจากคู่แข่งโดยเฉพาะจากจีนซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าและมีความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ของหุ้นเหล่านี้ก็ไม่ใช่หุ้นเต่า          
การหาหุ้นเต่าเป็นเรื่องของการมองทางด้านความเสี่ยงในระยะยาวของกิจการ แต่การลงทุนนั้นแน่นอนว่าเราอยากได้ผลตอบแทนของการลงทุนในระดับที่น่าพอใจ นั่นก็คือ เราอยากได้เต่าที่ เดินดังนั้นไม่ใช่เต่าทุกตัวที่เราอยากได้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าอย่างน้อยเต่าที่น่าจะลงทุนได้ควรจะ เดินเพิ่มหรือโตปีละไม่น้อยกว่า 7-8% และซุปเปอร์เต่าที่น่าสนใจมากๆ ควรจะเดินได้ปีละ 15-20% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่วนกิจการที่โตปีละ 30-40% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและนักวิเคราะห์คาดว่าจะโต 30-40% ต่อไปเราควรตั้งข้อสงสัยว่าเป็นหุ้นเต่าหรือไม่ เพราะว่าเต่าส่วนใหญ่ไม่ได้เดินเร็วขนาดนั้น
นอกจากตัวหุ้นแล้ว Value Investor ก็ควรทำตัวให้คล้ายๆ กับเต่าเหมือนกันนั่นคือ อย่าทำตัวแอ็คทิฟเกินไปแบบเด็กที่เห็นอะไรก็สนใจเข้าไปเล่นหมด หุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นมีจำนวนมาก หุ้นที่เป็น Value เองก็มีมากมาย ความคิดใหม่ ๆเกี่ยวกับหุ้นแต่ละตัวก็มีมากมาย ถ้าเราเข้าไป เล่นทุกตัว หรือซื้อขายหุ้นบ่อยมาก แม้ว่าจะเป็นหุ้น Value แบบนี้ไม่ใช่การลงทุนแบบเต่า การลงทุนแบบเต่านั้น ผมคิดว่าต้องคิดมากแต่ทำน้อย ถ้ามองจากภายนอกก็จะเห็นถึงความเป็น เต่าคือไม่คึกคัก กระโดด เดินหน้า ถอยหลัง ไปข้าง แต่เดินอย่างช้าๆ ไปข้างหน้าอย่างเดียว
          คุณสมบัติข้อสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือ อายุที่ยืนยาว และนี่คือความได้เปรียบมหาศาลของเต่า เปรียบเทียบแล้วนี่คือเวลาของการลงทุน ซึ่งผมคิดว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่นๆทั้งหมด ว่าที่จริงคนที่จะชนะในการลงทุนจริงๆนั้น จะต้องมีอายุการลงทุนที่ยาวนานพอ ซึ่งก็แปลว่าคนหนุ่มสาวที่ยังมีอายุน้อยและตั้งใจที่จะลงทุนไปยาวนานไม่ออกจากตลาด และคนที่มีสุขภาพดีและอายุยืนที่ตั้งใจลงทุนไปจนเกษียณหรือจนตาย จะได้เปรียบและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าคนอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น